วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เหล็ก.... คุณรู้จักมันดีแค่ไหน ? (ตอนจบ)

ก่อนอื่นต้องกล่าวว่าสวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านครับ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้นำเสนอเรื่องเกี่ยวกับเทคนิคการสังเกตเหล็กรูปพรรณไปแล้ว คราวนี้ก็มาพบกับเทคนิคการสังเกตเหล็กอีก 2 ประเภทที่เหลือนั่นคือเหล็กเส้นและลวดเหล็กกันครับ อย่าได้เสียเวลา..เริ่มกันเลยดีกว่า

เหล็กเส้น ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับว่าคือเหล็กเส้น โดยจะแบ่งเป็นเหล็กเส้นกลมและเหล็กข้ออ้อย บอกก่อนว่าเหล็กเส้นไม่มีจุดสังเกตอะไรที่ซับซ้อนมากมาย แค่มีชื่อย่อของตัวมันเท่านั้น

เหล็กเส้นกลม หรือ Round Bars เรียกย่อ ๆ ว่า RB โดยเหล็กชนิดนี้มีชั้นคุณภาพคือ SR24 ซึ่งการตีตราบนเหล็กหรือการเขียนให้เข้าใจคือ RB6 x 10 = เหล็กเส้นกลมขนาด 6 มม. ความยาวที่ 10 ซึ่งเหล็กเส้นกลมเองก็จะมีความยาว 1 เมตร 10 เมตร และ 12 เมตร ที่เป็นความยาวโดยหลักส่วนที่ความยาวอื่นนั้นก็มีครับก็แล้วแต่ความต้องการของผู้ใช้เหล็กเอง

เหล็กเส้นข้ออ้อย หรือ Deformed Bars เรียกย่อ ๆ ว่า DB โดยเหล็กชนิดนี้มาชั้นคุณภาพถึง 3 แบบครับ อันได้แก่ SD30 SD40 และ SD50 สำหรับเรื่องชั้นคุณภาพแตกต่างกันอย่างไรผมไม่ขอกล่าวถึงในตอนนี้ครับ เหล็กชนิดนี้การตีตราบนเหล็กก็คือจะตีตราเป็นตัวย่อแล้วตามด้วยขนาดและบนเส้นเหล็กเส้นเดียวกันนั้นก็จะตีตราบริษัทผู้ผลิตและระดับชั้นคุณภาพไว้ด้วยครับ เช่น DB16 SD40 บลส ก็หมายถึงเหล็กเส้นข้ออ้อย 16 มม. ชั้นคุณภาพที่ SD40 โรงผลิตคือ บลส ครับ ตรงนี้เค้าอาจตีบนเหล็กไม่ใกล้กันนะครับแต่มันจะอยู่บนเหล็กเส้นเดียวกันทั้งหมด เห็นไหมครับเหล็กเส้นง่ายมากไม่ยากเย็นอะไรเลย อ้อผมลืมไปสำหรับเรื่องเหล็กพับกับไม่พับอันนี้จะมีผลต่อการขนส่งครับ (จะใช้ทั้งกับเหล็กเส้นกลมและข้ออ้อย) ก่อนที่จะไปดูเหล็กตัวต่อไปเราไปชมรูปของเหล็กเส้นข้ออ้อยก่อนครับ

ลวดเหล็ก หรือ Steel Wire ลวดเหล็กตัวนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเดียวนะครับ มันแบ่งย่อยประเภทออกไปอีกหลายตัวแต่ผมจะยกมาเพียงแค่ 2 ตัวหลักก่อน เริ่มที่

ลวดเหล็กกล้าสำหรับคอนกรีตอัดแรง ( Prestressed Concrete Wire ) หรือเรียกสั้น ๆ ย่อ ๆ ว่า PC WIRE (พีซี ไวร์) โดยลวดเหล็กตัวนี้ก็มีหลายรูปแบบครับอันได้แก่ แบบเรียบ แบบหยัก รอยย้ำ แบบแชฟรอน แบบบั้ง แต่ตรงนี้ไม่มีความสำคัญอะไรเท่าไหร่นักเพราะทางเทคนิคแล้วทุกแบบสามารถแทนกันได้หมด ที่แทนกันไม่ได้ก็เห็นจะเป็นเรื่องขนาดเท่านั้น แต่ด้วยรูปแบบที่ต่างกันของลวดเหล็กในแต่ละแบบจะมีผลต่อการยึดเกาะของคอนกรีตเท่านั้นเองครับ โดยลวดเหล็กชนิดนี้จะมีขนาดที่ 4 – 9 มม. ครับ ซึ่งลวดเหล็กแต่ละขนาดก็จะแบ่งประเภท (เกรด) ออกเป็นขนาดละ 2 เกรด เช่น ขนาดที่ 4 มม. จะมีเกรดที่ 1670 กับ 1770 ตรงคำว่าเกรดสำคัญตรงไหนนั้นผมจะบอกให้ครับว่ามันคือความทนแรงดึงซึ่งระบุเป็นนิวตันต่อตารางมิลลิเมตร หากอยากรู้ว่าแต่ละเกรดต่างกันอย่างไรต่างกันขนาดไหนผมแนะนำว่าให้เอาตารางสเป็คของเหล็กชนิดนี้มากางดูครับแล้วคุณจะพบความแตกต่าง ก่อนที่เราจะไปดูรูปว่าหน้าตาเป็นอย่างไรผมขอสรุปก่อนว่า เหล็กตัวนี้เรียกว่า “PC WIRE” ซึ่งทุกโรงผลิตและทุกบริษัทจะเรียกเป็นชื่อนี้ทั้งหมด (เพราะคงไม่มีใครมาเรียกว่า ลวดเหล็กกล้าสำหรับคอนกรีตอัดแรง มันยาว… ) และที่ประการสำคัญคือเหล็กตัวนี้ต้องได้รับ มอก.95 นะครับ เพราะเหล็กชนิดนี้เค้าเอาไปใช้งานเกี่ยวกับโครงสร้างจึงจำเป็นมากที่ต้องได้มาตรฐานอุตสาหกรรม พูดมาซะยาวไปดูรูปกันเลยดีกว่า

ลวดเหล็กกล้าตีเกลียวสำหรับคอนกรีตอัดแรง (Prestressed Concrete Strand Wires) หรือ PC STRAND (พีซี สแตน) เป็นการนำลวดเหล็กคาร์บอนสูงที่ได้ลดขนาดแล้ว มาตีเกลียวจนได้ลวดเหล็กกล้าตีเกลียว ซึ่งโดยปกติจะเป็นการนำลวด 7 เส้น มาตีเกลียว จะมีก็แต่บางบริษัทเท่านั้นที่มีการนำลวด 3 เส้นมาตีเกลียว ซึ่งลักษณะก็จะคล้าย ๆ กับ PC WIRE คือจะมีการแบ่งเกรดออกเป็น 2 เกรดด้วย แต่ที่ต่างคือลวดเหล็กชนิดนี้นั้นถ้าหากว่าเป็นเกรด 1720 แล้วจะมีขนาดของลวดเหล็กที่ 9.3 12.4 และ 15.2 ซึ่งบางบริษัทอาจมีขนาดที่ 10.8 มม. ส่วนเกรด 1860 ก็จะมีขนาดที่ 9.5 12.7 และ 15.2 โดยบางบริษัทก็อาจมีขนาดที่ 11.1 มม. จะสังเกตได้ว่าลวดเหล็กชนิดนี้หากว่าสั่งไปที่ขนาดใดขนาดหนึ่งแล้วจะมีเพียงเกรดเดียวแต่จะยกเว้นสำหรับขนาดที่ 15.2 ที่จะมีทั้ง 2 เกรด สำหรับการสังเกตเหล็กประเภทนี้ก็จบเท่านี้ครับ แต่ผมขอเพิ่มเกร็ดเล็ก ๆ น้อย อีกอย่างนั้นคือ เหล็กตัวนี้จะมีการแบ่งประเภท Low Relaxation กับ Normal Relaxation ทางวิศวกรเค้ากระซิบผมว่าโดยหลักแล้วทั้ง 2 ชนิดนี้ต่างกันก็จริงแต่ถ้าหากผลิตตัว Low Relaxation มาแล้วมันจะครอบคลุมตัว Normal Relaxation ไปโดยปริยาย

ผมก็ขอจบการนำเสนอเรื่องราวในการสังเกตเหล็กแต่ละชนิดไว้เพียงเท่านี้ก่อน สำหรับเหล็กตัวใดที่ผมเองนั้นไม่ได้กล่าวถึงนั้นก็เนื่องมาจากว่าเหล็กตัวนั้นยังไม่มีความจำเป็นอะไรมากนัก แต่ถ้าหากในอนาคตเหล็กตัวใดที่ผมไม่ได้เขียนในบทความนี้ แต่มีคนถามกันเข้ามามากผมก็จะมานำเสนอให้ทุกท่านได้เรียนรู้กันครับ แล้วพบกันใหม่ในคราวต่อไป ส่วนจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรในวงการก่อสร้างนั้นก็ต้องคอยติดตามกัน สวัสดีครับ..

ระพีพัฒน์


ได้รับความเอื้อเฟื้อข้อมูลและภาพประกอบจากบริษัท ไทยไวร์โพรดักคท์, บางกอกสตีลไวร์, ระยองไวร์, ค้าเหล็กไทย

www.ebuild.co.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 

สถิติ